Fishbone Diagram เครื่องมือเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา (ตอนที่ 2)

มาต่อกันเรื่อง Fishbone Diagram นะคะ อย่างที่บอก Fishbone Diagram เป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา (เชื่อโอ๋เถอะ เวลาคิดไม่ออก วาดก้างปลาออกมา แล้วค่อยๆเติมไปทีละก้าง เราจะค่อยๆนึกสาเหตุของปัญหาที่เราคิดไม่ออกมาตั้งนานได้เลยแหละ)

แล้ว Fishbone Diagram ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?
หัวปลา: หัวข้อ หรือปัญหาที่ต้องการหาสาเหตุ
ก้างปลาหลัก: หัวข้อหลักๆของสิ่งที่อาจจะเป็นสาเหตุ
ก้างปลารอง: รายละเอียดของสิ่งที่อาจจะเป็นสาเหตุที่แตกออกมาจากก้างปลาหลัก

ทีนี้ ลองหยิบปากกาขึ้นมา เขียน fishbone diagram ในเรื่องที่อยากรู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไรดูซักเรื่องดีไหมคะ จริงๆไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องงานค่ะ เริ่มจากเรื่องง่ายๆก่อน สำหรับสาวๆที่ยังไม่มีแฟนและอยากมี เราเอา Fishbone Diagram มาลองหาสาเหตุดูว่าที่เรายังไม่มีแฟนน่าจะเป็นเพราะอะไร (เราจะได้เอามาปรับได้ถูกจุด) ^^

Fishbone Ex

Fishbone Diagram หาสาเหตุของการยังเป็นโสด

หัวปลา: ทำไมยังเป็นโสดนะ???????

ก้างปลาหลัก: สิ่งที่อาจจะเป็นสาเหตุของการโสด เช่น รูปร่างหน้าตา, สังคม, งาน, บุคลิกลักษณะของชายในฝัน

ก้างปลารอง: แตกย่อยก้างปลาหลักออกมาดูว่าเป็นยังไง เช่น
o งานเป็นลักษณะงานบัญชี เลิกดึก เพื่อนร่วมงานมีแต่ผู้หญิง
o สังคมที่ไม่ใช่งาน ชอบโยคะ และชอบไปวัด ซึ่งเกือบนับได้ว่าเป็นสังคมหญิงล้วน
o รูปร่างหน้าตา กลางๆค่อนไปทางดี
o บุคลิกลักษณะของชายในฝัน เป็นชายกลาง ไม่ต้องหน้าตาดีมาก ฐานะปานกลาง

จากทั้งหมดที่วาดออกมา สามารถทำให้เราเข้าใจได้ว่าปัญหาคือ เราไม่เจอผู้ชายค่ะ งานเราก็มีแต่ผู้หญิง ก้มหน้าก้มตา debit credit กันไป ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ส่วนวันหยุด เรายังชอบทำกิจกรรมที่ไม่ค่อยมีผู้ชายมาร่วมด้วย

ทางแก้ หากิจกรรมที่ทำให้เราได้เจอกลุ่มเป้าหมายบ้าง เช่น เข้าชมรมถ่ายภาพ ซึ่งมักเป็นชมรมเกือบชายล้วน (เราสวยชัวร์) หรือกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ขี่จักรยาน (รับรอง คนมาช่วยดูแลเพียบ)

ทีนี้พอเข้าใจ Fishbone Diagram กันมาขึ้นแล้วใช่ไหมคะ คราวหน้าเวลาแก้ปัญหาคิดไม่ตก ลองหยิบกระดาษปากกาขึ้นมา วาดน้องก้างปลาขึ้นมาเป็นตัวช่วยนะคะ ^^

Fishbone Diagram เครื่องมือที่ดูเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา (ตอนที่ 1)

วันนี้โอ๋มีเรื่องเกี่ยวกับการใช้ภาพในการช่วยคิดอีกวิธีมานำเสนอ นั่นก็คือ Fishbone Diagram ค่า

หลายๆคนคงเคยเห็น Fishbone Diagram แล้ว แต่ไม่รู้ว่าน้องก้างปลาหน้าตาติงต๊องเนี่ย เค้ามีประโยชน์มากมายนะเออ

ยกตัวอย่างเช่น เวลาเรามีปัญหา ทั้งในเรื่องงาน หรือในชีวิตประจำวัน แทนที่เราจะตะบี้ตะบันคิดวิธีแก้ ซึ่งเราอาจจะเลือกทางเลือกที่เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมก็ได้ (ใครจะไปรู้เนอะ) แทนที่จะทำแบบนั้น เราลองมาคิดดีไหมว่าสาเหตุของปัญหา อาจจะ หรือน่าจะเกิดจากอะไรได้บ้าง
พอเรารู้สาเหตุที่แท้จริงแล้ว การคิดหาวิธีแก้จะได้ถูกจุด ไม่เสียเวลา เสียทรัพยากรไปฟรีๆ

Fishbone Diagram (หรือจะเรียกว่า Cause–and–Effect Diagram, Ishikawa Diagram ก็ได้) เป็น diagram แบบเข้าใจง่ายๆ ที่ใช้ในการหาสาเหตุของปัญหา (Cause-and-Effect) ที่ถูกคิดค้นขึ้นโดย Professor Isao Ishikawa ชาวญี่ปุ่นผู้คิดค้นเรื่องทฤษฎีการควบคุมคุณภาพ (Quality Management)

หน้าตาของ Fishbone Diagram เป็นแบบก้างปลา ทำให้เราสามารถเห็นทุกอย่างได้ในภาพเดียว แถมเข้าใจง่าย (และเหมือนเดิม อะไรที่เป็นภาพ สมองจะรับ จะตอบสนอง และจะเข้าใจได้มากกว่าการเขียนเป็นข้อๆ) ทำให้เราหาวิธีแก้ปัญหาได้ตรงจุดขึ้น

คราวหน้าเรามาดูตัวอย่างของ Fishbone Diagram กันแบบจริงจังนะคะ (ตัวอย่างเหมาะกับคนโสดมากค่า) ^^

ปล ห่างหายไปนาย ช่วงนี้งานเข้าจริงจังค่ะ แต่สัญญาว่าจะกลับมาแชร์ข้อมูลดีๆกันต่อไปนะจ๊ะ จุ๊บ จุ๊บ

https://plus.google.com/111242482161221966616/posts/ikDrwgtJhR1

สมองและจินตนาการ

เคยสังเกตุไหมคะ ตอนเด็กๆ เรา(เกือบ)ทุกคนมีจินตนการ และชอบทดลองโน่นนี่ เราฉีก เราปา เราทุบ เรากัดของต่างๆ… นี่มันนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองชัดๆนะ และเราส่วนใหญ่ คิดจินตนาการสิ่งต่างๆเป็นภาพ แต่พอโตขึ้น ความสามารถเหล่านี้กลับค่อยๆลดลงเรื่อยๆ (ก็ใช่สิ ถ้ายังฉีก ปา กัดของจนตอนนี้ พ่อกะแม่คงเตะออกจากบ้านไปแล้ว)

มันเป็นเพราะอะไร??

ง่ายๆเลยค่ะ เพราะระบบการศึกษาของเราไม่เอื้ออำนวยให้เราสร้างจินตนาการ แต่กลับบังคับให้เรายึดติดกับตัวหนังสือ และตัวเลขที่น่าเบื่อ ไม่ใช่ว่าระบบการศึกษาไม่ดีนะคะ ในมันดีในแบบของมัน แค่มันขัดกับการสร้างสรรค์จินตนาการเท่านั้นแหละ

กระแส Visual Thinking หรือบางคนเรียกว่า Right Brained Learning/ Picture Thinking จึงกำลังมาแรง เพราะสามารถช่วยให้การคิด แก้ไขปัญหา การหาทางเลือก การจดจำ และแม้แต่การประชุม วางแผนต่างๆ สามารถเป็นไปได้แบบง่ายขึ้น เข้าใจได้ชัดเจน และยังไม่น่าเบื่ออีกด้วย
เครื่องมือที่ใช้ในการคิดแบบ Visual Thinking ก็มีได้หลากหลาย ตั้งแต่ Mind Mapping หรือการจดโน๊ตแบบ Sketchbook ที่มีการใช้ภาพเข้ามาช่วย แทนที่จะมีแค่ตัวหนังสือกับตัวเลข

https://plus.google.com/111242482161221966616/posts/ikDrwgtJhR1